รดน้ำมนต์

          รดน้ำมนต์ เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่ง ใช้น้ำที่ปลุกเสกด้วยเวทมนตร์รดให้แก่คนทั่วไปเพื่อเป็นสิริมงคล และรดแก่ผู้ที่ประสบเคราะห์กรรม เกิดโรคภัยเจ็บไข้ เกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ถูกคุณไสย ถูกผีสิง ฝันร้าย ตกใจจนเสียขวัญ เกิดลางต่าง ๆ เป็นการสะเดาะเคราะห์ร้าย เสนียดจัญไรทั้งปวง ให้หลุดถอนหายไป ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้น จะได้อยู่เย็นเป็นสุขต่อไป

น้ำที่ปลุกเสกโดยหมอทำน้ำมนต์ เรียกว่าน้ำมนต์ ถ้าเจริญพุทธมนต์โดยพระภิกษุสงฆ์ เรียกว่าน้ำพุทธมนต์ มีกรรมวิธีคล้ายกัน

        การประกอบพิธีกรรมรดน้ำมนต์ มีขันสำริดหรือหม้อน้ำ ๑ ใบ เทียน ๑ เล่ม รูปพระพิฆเนศสำริดวางก้นขัน ใบหญ้าคา ๑ กำ หรือใบเฉียงพร้า หรือใบมะยม สำหรับประพรมน้ำมนต์ ของสามสิ่งนี้ ถือเป็นของขลัง มีตำนานด้วยกันเมื่อหมอบูชาครูตามธรรมเนียมแล้ว เริ่มสาธยายมนต์ ปลุกเสกน้ำมนต์ตามลำดับบทที่นิยมใช้สาธยายมีดังนี้

         “สิบนิ้วประนม ยกตั้งบังคม เหนือเกล้าเกศา ไหว้คุณพระพุทธ พระธรรมบริสุทธิ์ พระสงฆ์เลิศไกร ข้าไหว้พระปริมัตต์พระศรีรัตนตรัย ขออย่ามีภัย คุณแก้วทั้งสาม ไหว้พระอรหันตา อันทรงศีลา ข้าจักขอนาม เอามาเป็นยา สระเกล้าเกศา มีชัยทุกประการ ไหว้พระอาทิตย์ ท่านผู้มีฤทธิ์อยู่ทิศอีสาน รักษามนุษย์ศรีหกปีมานาน ข้าขอนมัสการ สระเกล้าเกศาถัดนั้นมาเล่า ไหว้พระจันทร์เจ้า อยู่เฝ้าบูรพา รักษามนุษย์ สิบห้าปีกว่า ขอจงเทวามากันโพยภัย ฝ่ายหนอาคเนย์ พระอังคารเรืองศรี มีอิทธิฤทธิ์ไกร รักษามนุษย์ แปดขวบปีใหม่ ขออย่ามีภัย จัญไรอย่ามี จงมาป้องกัน โรคร้ายทั้งนั้น กันไว้ด้วยดี เคราะห์ปีเคราะห์เดือน เลือนตามนาที ลักขณาราศี เคราะห์น้อยเคราะห์ใหญ่ ทักษิณล้ำอุตม์ เทวาพระพุธ รักษามนุษย์ สิบเจ็ดขวบไป จัญไรอย่ามี ถัดนั้นเล่าหนา ไหว้พระเสารา รักษาหรดี รักษามนุษย์ ได้สิบขวบปี พระเคราะห์อย่ายี อย่ามีโทษหลาย จงพาเคราะห์ร้าย คลายจากกายา พายัพจงรู้ องค์พระราหูท่านอยู่รักษา สิบสองปีตรา โพยภัยใดมา ขับไล่เจียนจร พระศุกร์เทวา ท่านได้รักษา ฝ่ายทิศอุดร รักษามนุษย์ ยี่สิบปีก่อน ไม่ได้อนาทร ทุกข์ภัยใดร้อน ร้อนในกายา อากาศเทเวศ เทวาพระเกตุ ท่านได้รักษา ทั้งเก้าราศี มีเดชเดชา สรรพเคราะห์ นพเคราะห์ สะเดาะให้คลา ด้วยเดชเดชา เทวาทั้งหลาย อยู่สุขสบาย เจ้านายปรานี สรรเสริญท่านแล้ว ขอให้ผ่องแผ้ว โรคร้ายอย่ามี อยู่สุขสวัสดี ชั่วนี้ชั่วหน้า อายุวัณโณ สุขังพลัง

         ยอไหว้วันทา องค์พระมหา เถราพุทธาจารย์ ตกแต่งร่างกาย เรียกว่ามหาศาล พุทธังเบิกบาน เบิกท่อธารา เบิกห้วยเบิดคลอง เบิกช่องภูผา สะเดาะขื่อสะเดาะคา สะเดาะยา สะเดาะมนต์ พุทธสะเดาะ ธาสะเดาะ สะเดาะพระเคราะห์คน สะเดาะทั้งภาพยนต์ (ภาพยนต์ หมายถึง การผูกหุ่นจากหญ้าฟางด้วยเวทมนตร์ ใช้ไปรบฝ่ายศัตรูได้) สะเดาะมนต์ผูกไว้พุทเคลื่อนธาคลอน อะถอนยะผาย สะเดาะคนฝันร้าย อะผายระงับ สะเดาะคนต้องเล่ห์ เถราท่านขับ นะ มะ กะ ดับ พะ จะขับไป ครูกูให้สะเดาะ พระเคราะห์จัญไร สะเดาะผีโพไทร เร็วไวผันผาย อิสะวะกะ กูจะสะเดาะผีใช้ สะเดาะฝีตายาย ผีตายตกคลอง อะสังวิทา กูสะเดาะยาถูกต้อง ทำด้วยเชือกคล้อง เปื่อยพองทั้งตัว ครูให้กูขับ ครูให้กูไล่ ผีตายเมามัว ต้องเสนียดสั่นรัว เจ็บหัวเจ็บตา กูจะถอนกูจะแก้ กูจะแล่กูจะผ่า ทำด้วยอะอา สูอย่าไถล ทำด้วยเชือกหนัง ฝังต้นไม้ใหญ่ ฝังไว้ใต้ได ครูไซร้จะรื้อถอน นะมะพะทะ สะเดาะพระเคราะห์ชนมรณ์ คนฝังเอาไว้ ที่ใต้ที่นอน กูจะถอนด้วยตัวธม ทำด้วยพรมโหด ผีโภตทั้งกลม มาทำด้วยลมนะระทมแก้ถ่าย ฝังรูปป่าช้า ใบ้บ้าจนตาย ทำด้วยหนังควาย โมละลายหายสูญ สะเดาะมนต์เขาทำ ด้วยหมากพลูปูน น้ำตาปลาพะยูน กูจะสูญด้วยตัวพุท ทะสะวิระ สะเดาะยามหาอุตม์ โอมหลุดมหาหลุด อะตุดยะผาย สะเดาะทั้งกระดูก ทั้งลูกหลวนตาย น้ำมันผีพราย ต้องหญิงต้องชาย กูจะไล่คาถา ปะ สุ อุ ชา พุทธังสังมิ มึงทำด้วยปลา ทำด้วยภะคะวา สูอย่าวนเวียน น้ำทิพย์รดลง เคราะห์จงหันเหียน รดลงเหนือเศียร พระเคราะห์เหียนถอยรา รดน้ำทิพย์มนต์ รดคนใบ้บ้า รดเหนือเกศา สะเดาะยาเสน่ห์ สะเดาะกระดูกผีพราย ฝังไว้ใต้เก ฝังไว้ริมทะเล เหย้าเรือนเคหา มิกิสิถิ มานิกิจจัง กูสะเดาะรูปฝัง สะเดาะทั้งผีดง สะเดาะทั้งผีบ้าน ผีรานควานทรงผีปราบผีพง สูจงหลีกหนี พาพระเคราะห์ร้ายออกไปเร็วไวจรลี ไปยังพงพี สู่ที่ถิ่นฐาน นะโมพุทธา ยะมาประหาร อะกูจะผลาญ ผลาญพวกศัตรู กูจะทิ้งบ่อร้าง กูจะมล้างด้วยอุอู สูอย่ามาสู่ พึ่งอยู่ในร่างอัดกัน ลิขิตปารมิ กูจะมล้าง ตราบนกตราบกวาง แรดช้างวัวควาย ครูกูให้สะเดาะ พระเคราะห์ทั้งหลาย พุทธาละลาย สูญหายทันที นะระส่ำ กูจะสะเดาะอ้ายพวกผี ฝูงยักขินี สะเดาะผีนำทาง ผีปราบผีปลัก ผีหลักถลุงช้าง สะเดาะผีคลองบาง สะเดาะมล้างเสียพลัน อะยัตตะโร พุทโธคลาผันสะเดาะผีถูกฟัน ตีรันเหมือนหมา พุทธายะติ ยะสะเดาะมหาชัย นะโมพุทธัสสะ กำจัดออกไป สูอย่ามาไข่ว ในร่างกายา นะโมธัมมัสสะ กำจัดเร่รา ทำด้วยงะงา มึงจะมาประหาร ไชยยะสังฆัสสะ กำจัดผีบ้าน ผีหอผีสาน อย่าพาลต้องคน พุทธาละลาย สูญหายบัดดล รดน้ำทิพย์มนต์ รดคนผีพราย สัพเพยักขา เทวาท่านให้ รดน้ำสำปุริต เปลื้องปลิด พระเคราะห์ร้าย เดินด่ำต่ำใต้ โมละลายหายสูญ ยะสูโมขับ อะอับอิอับ อะกันเสยยะมานั้น คุมกันสวะหาย

ปุระพาจะมัสมิง จะพุทธคุณัง 

ปุระพาจะมัสมิง จะธัมเมตัง 

ปุระพาจะมัสมิง จะสังฆานัง 

สรรพทุกข์สรรพโศก สรรพโรคภัย สรรพเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัฒนะไชยเย สรรพภยัง สรรพลาภัง ภวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุ

         วันนี้วันดี ขอพรชินสีห์ ปัญจะพุทโธ สาวกทั้งห้า ขอพระชิโน พระอิติปิโส คู่สร้างสมภาร ขอน้ำมนต์รด ความไข้หายหมด โรคร้ายสาธารณ์ กำจัดหายไกล ไปยังหิมพานต์ อายุยืนนาน สำราญพืชผล รดลงหนึ่งที เดชะบาระมี พระกุกกุสน ท่านได้ตรัสก่อน เป็นชัยมงคล ขอมาโปรดดลความไข้หายไป ผีโภตมายา ผีทุ่งผีนา ผีป่าดงใหญ่ ฝังไว้ใต้ได ผีชินกินใน ปราบทั้งผีไพร ผีใช้คุณยา หลังกลวงหลังโกง ผีพรายตายโหง เร่งไปอย่าช้า กูจะรดน้ำมนต์ สระเกล้าเกศา หัวจะแตกเจ็ดภาค หายไปด้วยระลม รดลงสองที เดชะบารมี พระโกนาคม ตรัสต่อกันมา ชะนาชื่นชม อยู่โปรดเกล้าผม โปรดคนทั้งหลาย โรคาอาพาธ หินอุ้งพุงพยาธิ ปัดกวาดแพร่พราย หืดไออกแห้ง ลบเลือดกลับกลาย ไส้พุงทลาย กลับกลายหายจม รดลงสามที เดชะบารมี ของพระกัสสป ตรัสต่อกันมา เป็นที่เคารพ เทวดามาจบ ทั่วด้าวแดนไตร ขอมากำจัด ไข้เจ็บข้องขัดพุพองหนองไหล เจ็บเอวเจ็บหัว มึนมัวตาใน ให้ละลายหายไป จิตใจชื่นชม รดลงสี่ที เดชะบารมี พระสมุทรโคดม เป็นกำแพงล้อมแห่งเกล้ากระผม ร้อนเร้าอารมณ์ อุบาทว์ขาดไกล ฝันร้ายได้ทุกข์ ไม่มีสุขใจ จิตเฟือนหลงใหล ละลายหายไป นอกฟ้าจักรวาล รดลงห้าที เดชะบารมีของพระศรีอาริย์ ยังอยู่ดุสิต เธอไม่นิพพาน ขอมาประหาร พระเคราะห์ร้ายโดยพลัน แปดองค์เทวัน ในดวงชะตา ขอให้เจริญสุข ทุกวันเวลา ฝูงเทพเทวา กันซึ่งอาวุธ รดลงหกที เดชะบารมี พระสารีบุตร สาวกเบื้องขวา แห่งข้าพระพุทธ ปัญญานั้นสุด เลิศล้ำแดนไตร ขอพรพระองค์ ปัญญายิ่งยง ภายนอกภายใน ให้สว่างน้ำจิต พิษไข้หายไป สรรพโรคภายใน เร็วไวเคลื่อนคลา รดลงเจ็ดที เดชะบารมี พระโมคค์ลาน์ สาวกเบื้องซ้าย ของพระพุทธา ฤทธีแกล้วกล้า กว่าคนทั้งหลาย ขอมาปราบปราม ศัตรูเข็ดขาม นึกร้ายแพร่พราย บัดพิษคุณยา มิได้กล้ำกราย มนต์ดลผีใช้ หลบทบเจ้าตน รดลงแปดที เดชะบารมี ของพระอานนท์ ปัญญาแม่นยำดังคำทศพล ไข้ห่าลงคน เมืองไพสาลี บาตรใส่อุทะกา เวียนรอบพารา ประปรายนที ตั้งปณิธาน ขับไล่ฝูงผี ตกใจวิ่งหนี ทลายกำแพง ขอน้ำมนต์รด ความไข้หายหมด มิสู้ขำแข็ง ด้วยแรงธรรมขันธ์ ดับโรคโรคัน หายพลันทั่วจบ รดลงเก้าที เดชะบารมี ของพระวัสสบ ผู้สืบศาสนาของพระตถาคต ความไข้หายหมด จะได้รักษา ศาสนายั่งยืน ทุกวันทุกคืน แผ่ไผไมตรี รดลงสิบครา ขอบาระมีตา ของพระสิบพะสี ลาภะมากมี บูชาให้ดี จะมีลาภมา ขอน้ำมนต์รด ความไข้หายหมดคลายความทุกขา สรรพโรคภายใน เร็วไวเคลื่อนคลา คลายจากกายา แคล้วภัยสิบประการแปดทิศาสาร เกิดเงินเกิดทอง เกิดแก้วเจ็ดประการ มีทั้งบริวาร ข้าทาสเหลือแหล มียศยิ่งยาดำรงเฒ่าแก่ ชัยมังนั้นแล ประสิทธีไชโย

          โอมสิทธิพุทธังจักขาเต โอมสิทธิธัมมังจักขาเต โอมสิทธิสังฆังจักขาเต มหิทธิมเหศรศักดิ์ ทรงพระนามว่าพระพุทธจักรศักดาเดชอันคมกล้า สำหรับที่จะได้ฆ่าพาลภูตปิศาจ ทั้งฝูงสัตว์อันร้ายกาจให้เสื่อมพยศ ด้วยเพลิงร้อนยิ่งกว่าเพลิงกรดสักพันเท่า ถ้าจะให้ประหารผลาญโลกก์ม้วยมุด ถ้ามาตรแม้นได้แช่งมนุษย์ที่เป็นอันธพาล ก็ฉิบหายวายปราณไม่หลอเหลือ จะสาปต้นหญ้าลดาเครือพฤกษาชาติ ก็เหี่ยวแห้งตายวินาศเป็นผุยผง ด้วยเดชพระพุทธองค์ ผู้ทรงญาณสมาธิ ด้วยอำนาจพระปาฏิหาริย์บันดาลสัตว์ให้เป็นไปได้ ทั่วโลก อาจที่จะระงับดับเสียซึ่งหมู่โรค อันบังเกิดแก่โอกะมิกาพาธ ที่โลกสมมติว่ากระทำด้วยอำนาจคุณและไสย บังเกิดด้วยผีทำและคนใช้ด้วยผืนหนัง บ้างกระทำด้วยก้างปลาและเสี้ยนหนามบ้างกระทำด้วยถ้วยชามเหล็กทองแดง บ้างปั้นรูปเอาหนามแทงเอาเข็มสัก ทำรูปรอยให้ผัวรักและผัวชัง ผูกด้วยตาสังเหน็บใบรักท้อนและใบจาก กระทำให้กำจัดพลัดพรากด้วยใบเต่าร้าง มีประการต่าง ๆ เหลือที่จะพรรณนา ที่ไหนจะทนทาน โองการพระคาถา พระพุทธจักรอันเรากล่าวขึ้นคราวนี้ ให้แตกหักทำลายหายสูญสิ้น ด้วยอำนาจธาตุกสิณอพิณญาณ มีนะมะพะทะเป็นประธานไม่คลายเคลื่อน เป็นต้นว่านะสะเทือนพสุธาเลื่อนไหวหวั่น มะเป็นหมอกควันดั้นเมฆพระสุริยาฟ้าอากาศ เขาพระสุเมรุมาศก็คงหักจักรวาลทานมิได้ พะทรงไฟประลัยกัลป์ให้รุ่มร้อน ทะทรงพระสมุทรสาครเดือดกระฉ่อน กระฉอกละลอกละลาย เดชะธาตุทั้งหลาย บันดาลพระเวททั้งนี้ให้ประสิทธิเตโช มะโหมะหิมะหานุภาพ บำราบหมู่ศัตรูท่านประสิทธิ์ อิอิทะทะโอโอ อะอังนะมะพะทะ นะมะอะอุมะทะระวิทู ครูผู้สามารถอาจพ่นให้เป็นเม็ดฝนไปทั้งอากาศสารพัดภูตผีพรายเป็นเพลิงประกาย กระจายด้วยศาสตราคม โอม มะ อะ อุ ยะ ธา พุท โม นะ ติ กะ เอ อิ อุ อิ อะ สิ มะสิกะสิ อะ อะ นะอัง พุทธะพุทโธ โอโอฟ้าผ่า อะอาฟ้าสั่นหวั่นหวาดภูตผีปิศาจ เร่งเร็วออกไป อะอะอาอา อย่าช้าเร็วไว ตามกูบัญชา โสสะ จิสะ ติวิยะอินะทะอุอิ มึงรู้เจรจา มึงรู้ภาษา กูเรียกมึงขาน กูวานมึงใช้ ให้มึงกลับไป หาเจ้านายมึง อย่าทำดื้อดึง ทำเล่ห์ทำกล ยะทาโสดัจฉะ อะมุมหิ อุททิอุททัง อะสังปะสัง พะวังจิตตัง อุททะอุตตะ อุตตะรูปัง มิตตังนิมิตตัง ภูตะภูตัง อุตติอุตตัง โอมนะมะพะทะ อะกะระมะธะ นะอะมะนิ นิมะ อะอุ อุอินะอะ อิกะววิติ พุทธิกัทโท มะโนมะยิ ดัจฉะ อะมุมหิ”

โองการปลุกเสกและรดน้ำมนต์ ค่อนข้างยืดยาว หมอน้ำมนต์บางท่าน จะตัดออกไปบ้างเพื่อความรวดเร็วและเหมาะสม แต่มิได้ทำให้พิธีกรรมขาดตอนไป เพราะแต่ละตอนมีความสมบูรณ์อยู่ในตัวแล้ว ตัดตอนใดก็ได้ แต่เท่าที่สังเกตมาหลายครั้ง หมอจะคงตอนรดน้ำมนต์เอาไว้ตั้งแต่ “วันนี้” จนถึง “ประสิทธีไชโย”

ราชพิธี พิธีสงฆ์ พิธีราษฎร์ การรดน้ำมนต์ ยังถือเป็นของขลังศักดิ์สิทธิ์ แม้มีผู้คัดค้านว่าเป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระ แต่มหาชนไม่ยอมรับ เป็นความเชื่อของคนไทย อย่างเหนียวแน่นมั่นคง พิธีกรรมนี้ ไม่มีทางจะเสื่อมคลายลงได้ คงอยู่คู่คนไทยตลอดไป