องค์กรทางวัฒนธรรมที่มีในภาคใต้ เกิดขึ้นจากส่วนราชการ สถาบัน สถานศึกษา วัดและเอกชนที่มีความรักและสนใจในงานวัฒนธรรม ส่วนราชการที่ทำหน้าที่โดยตรงเรื่องงานวัฒนธรรมคือ สำนักงานและคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) สถานศึกษาหรือสถาบันการศึกษา มีโรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย นอกนั้นก็จัดตั้งขึ้นที่วัดและสถานที่ของเอกชนที่รักและสนใจ
๑. องค์กรทางวัฒนธรรมที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ จัดตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔ โดยพัฒนาแนวคิดมาจากศูนย์ชุมนุมส่งเสริมวัฒนธรรมไทย เพื่ออนุรักษ์ส่งเสริมและพัฒนาวัฒนธรรมไทย โดยประกาศกระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดขึ้นทุกจังหวัด ในภาคใต้ก็มีศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัด และได้ตั้งอนุกรรมการวัฒนธรรมจังหวัดเพื่อช่วยส่งเสริมสนับสนุนศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดคณะหนึ่งด้วย บางจังหวัดที่มีความพร้อมก็ตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดถึง ๒ แห่ง เช่น ที่จังหวัดสงขลา มีศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา สถาบันราชภัฏสงขลา (มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาปัจจุบัน) และศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา สถาบันทักษิณคดีศึกษา และหากอำเภอใดมีความพร้อมก็ตั้งเป็นศูนย์วัฒนธรรมอำเภอขึ้นด้วย เช่น ศูนย์วัฒนธรรมอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นต้น หลักการตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัด ในช่วงแรกได้ยึดเอาวิทยาลัยครูทุกแห่งเป็นที่ตั้งศูนย์ฯ จังหวัดใดไม่มีวิทยาลัยครูก็ตั้งที่โรงเรียนมัธยมหรือวิทยาลัยตามความเหมาะสม เช่น ตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดพัทลุงที่โรงเรียนสตรีพัทลุง ตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ที่วิทยาลัยพลศึกษา จังหวัดกระบี่ ฉะนั้นศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดจึงมีทุกจังหวัดในภาคใต้ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติได้จัดงบประมาณตามโครงการและเงินอุดหนุน เพื่อดำเนินงานวัฒนธรรมมาตามความมากน้อยของโครงการแต่ละแห่ง ต่อมาได้ย้ายสถานที่ตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดไปอยู่ที่ศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดจึงเป็นที่ตั้งของศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดจนปัจจุบัน ส่วนสถานที่ตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเดิมก็ยังเป็นศูนย์วัฒนธรรมของสถาบันการศึกษานั้น
องค์กรทางวัฒนธรรมที่สำนักงานคณะกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติได้จัดตั้งขึ้นอีกองค์กรหนึ่งคือ “สภาวัฒนธรรม” ด้วยเหตุจากกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติจัดตั้งขึ้นตามเงื่อนไขในพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.๒๔๘๕-๒๔๘๖ และให้จัดตั้งตามประกาศของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เมื่อ ๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๘ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติได้ดำเนินการจัดตั้งสภาวัฒนธรรมจังหวัดเสร็จสิ้นในปี พ.ศ.๒๕๓๙ และในปี พ.ศ.๒๕๔๐ ได้จัดตั้งสภาวัฒนธรรมอำเภอและสภาวัฒนธรรมตำบล โดยเฉพาะสภาวัฒนธรรมอำเภอได้จัดตั้งครบทุกอำเภอแล้ว ส่วนสภาวัฒนธรรมตำบลยังจัดตั้งไม่ครบทุกตำบล ความประสงค์เพื่อให้สภาเป็นองค์กรกลางความร่วมมือ ส่งเสริม และประสานการดำเนินงานวัฒนธรรม ในองค์กรทุกระดับประกอบด้วยสมาชิกที่มาจากผู้แทนองค์กรเครือข่ายเครือญาติทางวัฒนธรรม ๕ กลุ่ม ที่เรียกว่า เบญจภาคี คือ
๑. องค์กรสาธารณประโยชน์เอกชน เช่น สมาคม มูลนิธิ สโมสร กรรมการหมู่บ้าน ฯลฯ
๒. องค์กรธุรกิจ ได้แก่ บริษัท ห้างร้าน โรงแรม ธนาคาร ฯลฯ
๓. องค์กรประชุม เช่น กลุ่มธุรกิจชุมชน กลุ่มพัฒนา กลุ่มอนุรักษ์ ฯลฯ
๔. องค์กรวิชาการ ได้แก่ สถาบันการศึกษา หอวัฒนธรรม กลุ่มศิลปิน พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ
๕. องค์การรัฐ ได้แก่ หน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ ดังนั้นองค์กรทางวัฒนธรรมภาคใต้ขณะนี้มีสภาวัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัด สภาวัฒนธรรมอำเภอมีครบทุกอำเภอ และสภาวัฒนธรรมตำบลก็มีเกือบครบทุกตำบล
๒. องค์กรทางวัฒนธรรมจากกรมศิลปากร เป็นองค์กรที่กรมศิลปากรได้จัดตั้งขึ้นและตั้งอยู่เป็นประจำตามความจำเป็นและเหมาะสมของท้องถิ่น ในภาคใต้มีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา นอกจากนี้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแล้วยังมีหน่วยงานของกรมศิลปากรเฉพาะภาคใต้คือหน่วยศิลปากรที่ ๘ จังหวัดนครศรีธรรมราชและหน่วยศิลปากรที่ ๙ จังหวัดสงขลา
๓. องค์กรทางวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ในสถานศึกษา องค์กรทางวัฒนธรรมในสถานศึกษาเกิดขึ้นจากหน้าที่ต้องทำนุบำรุงวัฒนธรรม ฉะนั้นในสถานศึกษาต่าง ๆ จึงมีองค์กรทางวัฒนธรรมในสถานศึกษาในภาคใต้คือ สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดสงขลา ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม สถาบันราชภัฏสงขลา ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมสถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมสถาบันราชภัฏภูเก็ต ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมสถาบันราชภัฏยะลา ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมสถาบันราชภัฏสุราษฎร์ธานี ศูนย์การศึกษาเกี่ยวกับภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จังหวัดสงขลา ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมโรงเรียนสตรีพัทลุง จังหวัดพัทลุง ศูนย์วัฒนธรรมโรงเรียนสภาราชินี จังหวัดตรัง ศูนย์วัฒนธรรมวิทยาลัยพลศึกษากระบี่ จังหวัดกระบี่ ศูนย์วัฒนธรรมวิทยาลัยพลศึกษาชุมพร จังหวัดชุมพร ศูนย์วัฒนธรรมโรงเรียนนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ศูนย์วัฒนธรรมโรงเรียนเตชะปัตตยานุกูล จังหวัดปัตตานี ศูนย์วัฒนธรรมโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร จังหวัดระนอง ศูนย์วัฒนธรรมโรงเรียนสตูลวิทยา จังหวัดสตูล และศูนย์วัฒนธรรมโรงเรียนดีบุกพังงาวิทยายน จังหวัดพังงา
๔. องค์กรทางวัฒนธรรมของเอกชน เกิดขึ้นจากบุคคลหรือเอกชนนั้นมีความรักหวงแหนในศิลปวัฒนธรรม สาขาต่าง ๆ ด้วยเกรงหากไม่เก็บไม่รักษาไว้ นานไปศิลปวัตถุเหล่านั้นจะสูญหายไปแน่นอน หากเก็บรักษารวบรวมไว้ก็จะเกิดประโยชน์แก่บุคคลผู้ใคร่ศึกษาในโอกาสต่อไป องค์การทางวัฒนธรรมของเอกชนแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม คือ
๑. องค์กรทางวัฒนธรรมในวัด เกิดจากพระภิกษุผู้ใหญ่ที่ตระหนักถึงคุณค่าของโบราณวัตถุและศิลปวัตถุต่าง ๆ โดยเก็บรวบรวมและรักษาไว้อย่างดี เพื่อให้อนุชนและประชาชนทั่วไปที่ใคร่รู้ใคร่ศึกษาในวัฒนธรรมของชาติสืบไป ได้แก่วัดต่อไปนี้
- องค์กรทางวัฒนธรรมในวัดมัชฌิมาวาส อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา พระราชศีลสังวรเป็นผู้เก็บรักษาและรวบรวมไว้ภายหลังได้ชื่อว่า “ภัทรศีพิพิธภัณฑ์” ต่อมาได้มอบหมายให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา
- องค์กรทางวัฒนธรรมที่วัดคูหาภิมุข อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง พระธรรมเมธาจารย์ เป็นผู้เก็บรักษารวบรวมไว้
- องค์กรทางวัฒนธรรมที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้มีจิตศรัทธาในพระศาสนาได้นำมาเพื่อบรรจุพระบรมธาตุและบูชาพระบรมธาตุ จึงมีศิลปวัตถุและโบราณวัตถุจำนวนมาก เพื่อใช้ประโยชน์ทางการศึกษาสืบมา
- องค์กรทางวัฒนธรรมที่วัดเขียนบางแก้ว อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง โดยเจ้าอาวาสเป็นผู้เก็บรักษารวบรวมไว้เพื่อการศึกษา ส่วนใหญ่เป็นโบราณวัตถุและศิลปวัตถุบริเวณรอบ ๆ พระธาตุเจดีย์และปริมณฑล
กลุ่มเอกชนทั่วไป
ศูนย์วัฒนธรรมกลุ่มเอกชนทั่วไปเกิดจากบุคคลที่รักและหวงแหนในศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและวัฒนธรรมแห่งชาติได้เก็บรวบรวมสะสมทั้งศิลปวัตถุ โบราณวัตถุและเรื่องราวประวัติความเป็นมาของสิ่งต่าง ๆ เอาไว้มากขึ้น ๆ ภายหลังได้จัดหมวดหมู่เอาไว้ตามที่พอจะทำได้จนเกิดประโยชน์ทางการศึกษาอย่างกว้างขวาง ต่อมาในภาคใต้มีองค์กรทางวัฒนธรรมเอกชน ดังนี้
๑. องค์กรทางวัฒนธรรม ที่บ้านนายสุชาติ ทรัพย์สิน บ้านเลขที่ ๑๑๐/๑๘ ถนนศรีธรรมโศก ซอย ๓ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เก็บรวบรวมโบราณวัตถุไว้พอสมควร เน้นพิเศษความรู้เกี่ยวกับ “หนังตะลุง”
๒. องค์กรทางวัฒนธรรมที่บ้านนายปกรณ์ ไชยรัตน์ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เก็บรวบรวมโบราณวัตถุทั่วไป สิ่งประดิษฐ์ เรื่องของนายหนังตะลุงและอื่น ๆ (ภิญโญ จิตต์ธรรม)