กระดังงา เป็นชื่อไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง ๑๐-๑๕ เมตร เปลือกลำต้นเกลี้ยงเกลา กิ่งก้านมักลู่ลง ใบ เดี่ยวเรียงสลับกันห้อยลง รูปใบยาว ปลายใบแหลมยาว โคนใบโค้งมน ใบบางนิ่มสีเขียวอ่อนดอกใหญ่รวมกัน ๓-๖ ดอก ดอกอ่อนสีเขียว แก่จัดสีเหลืองอมเขียว กลีบดอกยาวห้อยลงมี ๖ กลีบ แบ่งกลีบเป็น ๒ ชั้น รูปกลีบแคบปลายเรียวยาวขอบกลีบหยักเป็นคลื่น กลีบชั้นในสั้นกว่ากลีบชั้นนอกเล็กน้อย ดอกในช่อเดียวกันมักแก่ไม่พร้อมกัน เมื่อดอกแก่จัดจะมีกลิ่นหอมเพียงเล็กน้อย ต้องนำไปลนไฟ จึงจะมีกลิ่นหอมมาก ไทยเรามักจะเปรียบเทียบแม่ม่ายสาวที่มีรูปสวยว่า กระดังงาลนไฟ ผล เป็นกลุ่ม รูปยาวรี อยู่รวมกันเป็นพวงทั้งดอกและผล คล้ายกับดอกและผลของสายหยุดหรือสาวหยุดมาก ดอกแก่จัดสกัดน้ำมันหอมระเหย ใช้แต่งกลิ่นน้ำหอม เครื่องสำอาง ผู้หญิงไทยในอดีต นิยมใช้ดอกสดที่แก่จัดลนควันเทียน ใช้อบน้ำทำน้ำอบไทย สรรพคุณทางยา ใช้ผสมยาหอมแก้ลม บำรุงโลหิต บำรุงธาตุ บำรุงหัวใจ กระดังงานอกจากนำมาปลูกในบ้านในวัดแล้ว สามารถพบได้ในป่าดงดิบของภาคใต้ทั่วไป