จับปูดำ

จับปูดำ


จับปูดำ 

          ปูดำ หรือ ปูทะเล เป็นปูที่มีขนาดใหญ่กว่าปูชนิดอื่น ๆ มีรสชาติดีกว่าเนื้อปูชนิดอื่น ๆ ปูดำชอบอาศัยตามที่ดินชายเลน มีน้ำขึ้นลง มีชุกชุมบริเวณ ๒ ฝั่งทะเลของภาคใต้ การจับปูดำหรือปูทะเลเป็นอาชีพของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ริมฝั่งทะเลในภาคใต้ นอกจากจับปูดำเป็นอาหารแล้ว จับขายได้ราคาดีด้วยขายเป็นปูสดเป็น ๆ ใช้เชือกกาบกล้วยหรือเชือกกกมัดก้ามมัดตีนไม่ให้หนีบผู้ซื้อได้ เขาจะจับปูดำในเดือนข้างขึ้น ปูมีเนื้อเต็มแน่นมาก แต่ถ้าเป็นเดือนข้างแรม เนื้อปูดำสวก ๆ ไม่แน่น ทั้งนี้เป็นเพราะเดือนข้างขึ้นปูอาศัยแสงจันทร์หาอาหารกินในเวลากลางคืน ข้างแรมเดือนมืดปูออกหากินไม่เต็มที่ ชาวพื้นเมืองมีวิธีจับปูดำหลายวิธี

          ๑. จับด้วยการแทงแร้วหรือดักแร้ว ใช้ไม้เล็ก ๆ อันหนึ่งขดเป็นวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๑.๕ ฟุต แล้วถักด้วยเชือกป่านที่ใช้เย็บปากกระสอบป่าน มัดรวมเกลียวเป็น ๓ เส้นเข้าด้วยกันเพื่อให้มีความมั่นคง ป้องกันมิให้ปูดำหนีบขาดได้ง่าย ถักให้มีตาห่าง ๆ ประมาณ ๑.๕-๒.๐ นิ้ว อย่าให้ปูลอดออกได้ ตรงกลางถักเป็นรูปวงแหวน มีคันไม้ยาวประมาณ ๘ ฟุต เสี้ยมโคนให้แหลมมีไม้บาง ๆ เล็ก ๆ ทำเป็นเข็มหรือเดือย ยาวประมาณ ๘ นิ้ว มัดกับตอนล่างให้ติดกับคัน ปล่อยตอนบนไว้ มีปลอกเล็ก ๆ พอครือ ๆ รัดเข็มกับคันอยู่ ๒ ปลอก ไม้เข็มและปลอกมีไว้เพื่อติดเหยื่อไว้ในแร้วที่ขอบมีเชือกยาว ๑ ฟุตครึ่ง ผูกไว้ ๓ เส้น สอดคันเข้าไปในวงแหวนรอบเชือก ๓ เส้นมามัดไว้ที่คัน นำเนื้อปลาหรือเนื้อไก่เคล้ากับเกลือให้มีรสเค็ม ๆ นำเหยื่อวางลงระหว่างเข็มกับคันแร้ว แล้วเลื่อนปลอกทับลงไป ปักแร้วชายฝั่ง ปักห่างกันประมาณ ๑๐ เมตร รอเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แจวเรือไปแอบคันแร้ว กระชากคันแร้วขึ้นมาโดยเร็วกำลังน้ำจะกดตัวปูให้ติดอยู่กับแร้ว ตีนปูจะลอดตาข่าย คลานหนีทันทีไม่ได้ จับได้แล้วเทลงในช่องท้องเรือมีฝาปิด เมื่อจะนำไปขายต้องเอาเชือกรัดก้ามให้แนบกับลำตัว ต้องใช้แร้วหลายคัน จึงจะได้ปูจำนวนมาก แร้วทำครั้งหนึ่งแล้ว ใช้ได้หลายครั้ง

          ๒. จับด้วยการล้วงรู รูปูดำตรง ลึกประมาณ ๑ ฟุต เวลาน้ำขึ้น ท่วมถึงป่าโกงกาง ป่าแสม ปูดำ ก็ขึ้นไปตามน้ำและอาศัยอยู่ในรูป่าโกงกาง เวลาน้ำลดยังมีปูคงอยู่ในรูต่อไป ลิงแสมมีความชำนาญในการจับปูมาก หย่อนหางลงในรู ปูหนีบหางลิงไว้ ลิงดึงหางขึ้นเบา ๆ ช้า ๆ พอออกพ้นรูจับจับฟัดกิน ถ้าปูดำขนาดใหญ่ดึงหางลิงไว้ไม่ยอมปล่อย ลิงจะดิ้นอย่างไรก็ดึงไม่ขึ้นหากปลายหางขาดรอดชีวิตมาได้ ถ้าหากไม่ขาดเวลาน้ำขึ้นก็จมน้ำตาย คนที่ล้วงปูด้วยมือเคยประสบมาแล้วมากมาย การล้วงปูมีเครื่องมือ ๒ อัน คือ มีดบาง ๆ มีความยาวพอหยั่งถึงก้นรูของปูดำได้ กับเหล็กขออันหนึ่งสำหรับเกี่ยวปูดำขึ้นมาจากรู ต้องสังเกตปากรูก่อน ถ้ามีรอยตีนปูแสดงว่าปูอยู่ในรู แต่เพื่อความแน่นอน เอามีดบางยาวแยงเข้าไป ถ้ามีปู ปูจะใช้ก้ามตะกายปลายมีด มีเสียงดัง ถ้าเงียบแสดงว่าในรูนั้นไม่มีปู เมื่อพิสูจน์ว่ามีปูดำอยู่ในรูแน่แล้ว ก็ใช้ตะขอเหล็กแยงลงไป ดึงปูขึ้นจากรู ปูที่ได้จากรูเนื้อแน่น มีรสชาติดีกว่าปูที่ดักด้วยแร้ว

          ๓. จับด้วยการยกยอ ยอยกปูคล้ายยอธรรมดา ใช้เนื้อไก่ เนื้อปลา ๒-๓ ชิ้น ผูกไว้บนสะดือยอเป็นเหยื่อล่อให้ปูดำเข้ากินในยอ วางยอไว้ในน้ำนาน ๆ รู้สึกว่ายอไหว แสดงว่าปูเข้าดึงเหยื่อ จึงยกยอขึ้นพอเรี่ยน้ำ ตักด้วยสวิง ถ้ายกยอพ้นน้ำจะจับปูยาก ควรนั่งเรือไปยกยอปูริมป่าชายเลน ในขณะที่มีน้ำขึ้นคงที่ จะได้ปูมากกว่ายกยอชายฝั่ง

          ๔. จับด้วยการตก ใช้เชือกเหนียว ๆ เช่น ไนลอน ผูกกับลูกหินขนาดเท่าผลมะนาว ผูกเหยื่อ เช่น เนื้อไก่หรือปลาติดไว้ด้วย หย่อนลงในทะเลใกล้ ๆ ป่าชายเลน มือจับปลายเชือกข้างหนึ่งไว้ ถ้าปูมากินจะรู้สึกสะเทือนมือตุบ ๆ สาวเชือกขึ้นมาช้า ๆ ปูไม่รู้สึกตัว เกาะก้อนหินแน่นไม่ปล่อยเพราะห่วงเหยื่อ ใช้สวิงตักใส่เรือ อย่าให้ปูขึ้นมาใกล้ผิวน้ำเกินไป ปูจะตกใจปล่อยตีนจากก้อนหินหนีไป (พ่วง บุษรารัตน์)

ดาวน์โหลด PDF