จับลง

จับลง


จับลง 

          จับลง (เจ้าเข้าทรง) เป็นความเชื่ออย่างหนึ่งของชาวภาคใต้ โดยเชื่อว่าผีสางมีอำนาจลึกลับเหนือมนุษย์ที่สามารถดลบันดาลให้เจ็บป่วยให้เกิดเคราะห์กรรมถึงแก่ชีวิต ให้ประสบกับโชคลาภ สวัสดีมีชัย ทำมาหากินบังเกิดลาภผล ผีสางของปู่ย่าตายายและผีบรรพบุรุษเชื่อกันว่าเป็นผู้ที่ให้คุณ จึงยกย่องบูชาให้เป็นผีชั้นสูงเรียกกันว่า เจ้า ที่ประจำอยู่บนเรือนเรียกว่า เจ้าเรือน ประจำอยู่บนเนื้อที่ดิน เรียกว่า เจ้าที่นอกจากนี้ยังมีเจ้าป่าเจ้าเขา ปู่เจ้า หรือทวด ตามที่แต่ละคนนับถือ เป็นต้น หากลูกหลานตกทุกข์ได้ยาก ก็จะบนบานให้มารับเครื่องเซ่นสังเวยเพื่อช่วยแก้ทุกข์ดับร้อน หรือเชื้อเชิญให้มาสิงอยู่ในร่างของคนใดคนหนึ่ง ผู้ที่เจ้าเข้าสิง เรียกว่า คนทรง เมื่อเจ้าเข้าทรงผู้ใดก็จะแสดงอากัปกิริยาผิดปกติไปจากเดิม คือ ตัวสั่น ครวญคราง ส่งเสียงเอะอะ ตวาดกราดเกรี้ยวแสดงความไม่พอใจ นี้คืออาการของผู้จับลงที่ เจ้ากำลังเข้าทรงอยู่ จากนั้นบุคคลผู้เชื้อเชิญเจ้าก็จะไต่ถามว่าเป็นอะไร มีชื่ออย่างไร มาจากที่ไหน ทำไมต้องมา ความทุกข์เดือดร้อนของลูกหลานจะมีหนทางช่วยปัดเป่าได้อย่างไร เจ้าจะตอบคำถามหมดทุกคำถาม พร้อมทั้งบอกถึงสาเหตุที่เดือดร้อนและวิธีดับร้อนแก้ทุกข์ เมื่อซักถามตอบข้อข้องใจกันพอควรแล้วเจ้าก็ลาจากไป เปลี่ยนจากท่านั่งขัดสมาธิเป็นล้มตัวนอนหงายนิ่งเงียบหมดความรู้สึกใด ๆ ผู้เชื้อเชิญเจ้าใช้ผ่ามือข้างหนึ่งข้างใดตบหน้าขาของคนทรงเบา ๆ คนทรงก็จะรู้สึกตัว สติกลับคืนสู่สภาพปกติ พร้อมกับแสดงอาการเหนื่อยหอบแล้วมักถามผู้อื่นที่อยู่ในนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น ตัวเองไม่รู้เรื่องและจำความใด ๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น การจับลงอีกลักษณะหนึ่ง เกิดขึ้นโดยไม่มีใครเชื้อเชิญ อยู่ดี ๆ เจ้าจะเข้าสิงในร่างของใครสักคนหนึ่ง 

ในกรณีที่คนร่วมชายคาเดียวกันหรือเครือญาติกันเกิดเจ็บป่วยหรือได้รับเคราะห์กรรมอย่างใดอย่างหนึ่งก็จะปฏิบัติดังกล่าวแล้ว ถึงแม้ไม่มีผู้เชื้อเชิญเจ้ามา ก็ต้องให้ใครก็ได้สักคนหนึ่งทำหน้าที่เหมือนกับผู้เชื้อเชิญเจ้าสอบถามต่าง ๆ จนกระทั่งเจ้ากลับไป 

การจับลงอีกวิธีหนึ่งเกิดขึ้นจากเจตนาของเจ้าตัวเอง ในกรณีที่ปลุกเสกของดีหรือปลุกเสกพระเครื่องเพื่อทราบว่ายังมีความขลังอยู่หรือไม่ วิธีนี้ผู้ปลุกเสกใช้มือทั้ง ๒ กำพระเครื่องหรือของขลังไว้ พร้อมกับนั่งขัดสมาธิและภาวนาเวทมนตร์ทำใจให้เกิดสมาธิเพียงครู่เดียว ด้วยความขลังของเวทมนตร์และพระเครื่อง ก็จะจับลงทำให้เกิดอาการสั่นทั้งตัว เจ้าตัวก็จะบังคับอาการจับลงให้หยุดได้เอง จับลงแบบนี้ผู้จับลง ไม่ลืมตัว ที่ทำให้เกิดการจับลงก็เพราะอิทธิฤทธิ์ของเวทมนตร์คาถาและของขลัง จึงบังคับให้หยุดได้ ถ้าเกิดการจับลงได้ในกรณีดังกล่าวย่อมแสดงว่าของที่ปลุกเสกยังคงขลังอยู่ ถ้าไม่จับลงแสดงว่า ของนั้นปลอง (เสื่อม) ไปแล้ว จึงต้องทำพิธีปลุกเสกใหม่เรียกว่า เกิดใหม่ โดยให้เกจิอาจารย์ทำพิธีปลุกเสกให้หรือวางไว้ใต้อาสน์พระในอุโบสถ ๑ พรรษา 

การจับลงอีกวิธีหนึ่งเรียกว่า “ลงหานำ” วิธีนี้จะกระทำโดยเจตนา เมื่อเกิดสิ่งของสูญหายผู้เป็นเจ้าของสิ่งของนั้นจะหาหมอไสยศาสตร์ให้ช่วยปลุกเสกหาของที่สูญหายนั้นให้ โดยให้ใครก็ได้สักคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิประนมมือพร้อมกับกำไม้เรียวไว้ หมอจะปลุกเสกร่ายเวทมนตร์ เพียงชั่วเวลาไม่นานนัก ผู้นั้นก็จะจับลงแล้วลุกขึ้นถือไม้เดินไปตามที่ต่าง ๆ ที่สงสัยว่าจะอยู่พร้อมกับใช้ไม้เฆี่ยน ณ ที่นั้น ๆ ถ้าแน่ใจก็จะเฆี่ยนซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง หมอผู้ตามไปด้วยก็จะค้นหาจนพบของหากไม่แน่ใจจะเฆี่ยนเพียงครั้งเดียวแล้วผ่านไปยังที่อื่นจนกว่าจะพบสิ่งของ 

การจับลงวิธีต่าง ๆ ในปัจจุบัน ไม่ค่อยได้พบเห็น  (เฉลียว เรืองเดช)

ดาวน์โหลด PDF