จ่าง รัตนะรัต

จ่าง รัตนะรัต


จ่าง รัตนะรัต 

          นายจ่าง รัตนะรัต หรือ ดร.จ่าง เป็นนักการศึกษา นักวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์และนักบริหาร อาจกล่าวได้ว่า เป็นนักวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์คนแรกของภาคใต้ในยุคปัจจุบัน ท่านได้เริ่มชีวิตจากชนบท ศึกษาเล่าเรียนจากวัดและเป็นเด็กวัดมาโดยตลอดระยะเวลาที่เรียนอยู่ในชั้นเรียนต้น ๆ เป็นผู้ที่มีความมานะพยายามสูง สามารถสร้างสถานภาพของตนเอง จนเป็นบุคคลชั้นนำของประเทศในเวลาต่อมา

นายจ่าง รัตนะรัต เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๗ ที่บ้านบางหรง ตำบลบางนบ (ปัจจุบันขึ้นอยู่กับอำเภอหัวไทร) อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช บิดาชื่อ นายล่อง มารดาชื่อ นางเลื่อน เป็นบุตรคนที่สองในจำนวนพี่น้องห้าคน ได้รับการศึกษาชั้นประถมศึกษาที่วัดท่าซอม (ปัจจุบันอยู่ในตำบล ๆ หนึ่งของอำเภอหัวไทร) อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และไปศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ และได้รับทุนเรียนดีที่สุดของมณฑลนครศรีธรรมราชให้ไปเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูสวนกุหลาบวิทยาลัย สอบไล่ได้ประโยคมัธยมบริบูรณ์ (มัธยมศึกษาปีที่ ๘) และประโยคครูมัธยม (ป.ม.) เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๖

ปี พ.ศ.๒๔๖๖ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนประจำมณฑลนครศรีธรรมราชคือโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ซึ่งในขณะนั้นชั้นสูงสุดของโรงเรียน มีเพียงชั้นมัธยมปีที่ ๖ นายจ่าง ได้เป็นครูชุดแรกของโรงเรียนมหาวชิราวุธ ที่ได้บุกเบิกให้มีชั้นเรียนสูงขึ้น ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๗ และ ๘ และได้เป็นครูประจำชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๗ เป็นคนแรกของโรงเรียนแห่งนั้น 

ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๐ นายจ่าง ได้รับทุนของกระทรวงธรรมการให้ไปเรียนวิชาเคมีที่ประเทศเยอรมนี ได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเยนา จนได้ปริญญาดุษฎีบัณฑิต เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๘ ต่อจากนั้น ได้ทำงานวิจัยที่สถาบันโลหะ ที่เมืองสตุตการ์ด ประเทศเยอรมนีอีก ๑ ปี 

ได้เข้ารับราชการที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก กระทรวงกลาโหม เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๙-๒๔๘๕ จึงได้รับคำสั่งจากคณะรัฐมนตรีให้ไปปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด จากนั้นได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ กระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๘ 

ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๐๖ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และได้ครบเกษียณอายุราชการ ในปี พ.ศ.๒๕๐๗ 

ขณะที่ทำหน้าที่ครูก็เป็นครูที่สอนได้เกือบทุกวิชา เป็นครูที่มีความรู้ดีเยี่ยม สามารถถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นที่ประทับใจของศิษย์ในสมัยนั้นเป็นอันมาก 

เมื่อเป็นอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ก็ยังเป็นที่รักและประทับใจของผู้ใต้บังคับบัญชา ดังที่ข้าราชการของกรมวิทยาศาสตร์ทุกคนในสมัยนั้นเห็นพ้องกันว่า “ท่านเป็นคนดุ ดุจริง ๆ แต่การดุของท่านไม่ได้เป็นโทษแก่พวกเราเลย กลับเป็นคุณเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการและการปฏิบัติงาน เพราะท่านดุไปสอนไป ให้แง่คิดต่าง ๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม นานไปพวกเราก็เลยรู้ว่า ท่านดุแต่ปาก แต่น้ำใจนั้นประเสริฐนักมีแต่ความเมตตาต่อผู้น้อย มิได้อาฆาตพยาบาทใคร ไม่เคยเอารัดเอาเปรียบ มีแต่ให้...ให้อย่างเดียว” นี่คือคำอาลัยต่อท่าน ดร.จ่าง รัตนะรัต ในสมัยที่ท่านเป็นอธิบดี 

ที่สำคัญคือทำให้งานของกรมวิทยาศาสตร์พัฒนาก้าวหน้าไปเป็นอันมาก ทำให้หน่วยงานทางวิทยาศาสตร์แตกแขนงไปหลายหน่วยงาน เช่น สภาวิจัยแห่งชาติ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ซึ่งล้วนแต่จากการริเริ่มของ ดร.จ่าง รัตนะรัต ทั้งสิ้น 

นับตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่เป็นต้นมานั้น ได้มีการนำวิทยาศาสตร์ประยุกต์และเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาใช้อย่างรีบด่วน บ่อยครั้งขาดความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานและการจัดการที่ถูกต้อง มีผลให้การประยุกต์ดังกล่าวมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย จนสาธารณชนเกิดวิกฤตศรัทธาต่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.จ่าง รัตนะรัต ได้เป็นผู้ผลักดันการวิจัยการใช้วิทยาศาสตร์ในการพัฒนาประเทศและการแก้ไขปัญหาในทิศทางที่ถูกต้องมาโดยตลอดชีวิต ลูกหลานและมิตรสหายที่ใกล้ชิดทราบว่า ดร.จ่าง มีความห่วงใยในวิกฤตศรัทธาของสาธารณชนและได้ปรารภถึงการแก้ไข ลูกหลานของท่านจึงมีความเห็นว่า สมควรจะสืบทอดเจตนารมณ์นี้ เพื่อให้สาธารณชนได้รับความรู้ความเข้าใจในการใช้วิทยาศาสตร์กับชีวิตประจำวันอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง โดยได้ร่วมกันจัดตั้ง “กองทุน ดร.จ่าง รัตนะรัต เพื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ขึ้นเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๓๖ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุ ๘๙ ปี ของท่าน 

โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้คือ 

 ๑. เพื่อให้บุคคลในวงการต่าง ๆ และสาธารณชนได้เข้าใจคุณค่าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างถูกต้อง 

 ๒. เพื่อเผยแพร่ความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน 

 ๓. เพื่อให้บุคคลทั่วไปได้เข้าใจประโยชน์ของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ถูกต้องรวมทั้งผลเสียและอันตรายอันเกิดขึ้น หากผู้ใช้ขาดความเข้าใจและขาดการวางแผนที่ดี 

 ๔. เพื่อให้บริการทางวิชาการทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานตามที่มีผู้ขอร้อง 

ผลที่ได้รับ  

คาดว่าในระยะสั้น จะทำให้บุคคลในกลุ่มเป้าหมายได้ทราบและเข้าใจความสำคัญประโยชน์และการใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ถูกต้อง ทำให้เกิดศรัทธา และสามารถชี้แจงให้ผู้อื่นได้รับทราบ จนขยายวงกว้างเพิ่มศรัทธาต่อวิทยาศาสตร์ในสังคมไทยในระยะยาวอันจะนำไปสู่ทัศนคติที่ถูกต้อง และให้ความร่วมมือต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและพัฒนาประเทศ 

ดร.จ่าง รัตนะรัต เป็นนักวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์ที่เข้าใจสังคมไทยและวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง จึงได้มีความห่วงใยในวิกฤตศรัทธาดังกล่าว คุณสมบัติที่สำคัญอื่น ๆ ของท่านก็คือ เป็นผู้ที่มีความจำดีเลิศ เป็นผู้ที่มีความละเอียดรอบคอบ มีความเป็นระเบียบ เป็นคนกล้าตัดสินใจ ไม่โลเล มีความรู้ดีเยี่ยม เป็นนักวิชาการที่สามารถนำความรู้มาใช้ในงานอุตสาหกรรมได้ ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว จึงทำให้ ดร.จ่าง รัตนะรัต ได้ชื่อว่า เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเคมีพื้นฐานของประเทศไทย 

ในด้านชีวิตครอบครัว ดร.จ่าง รัตนะรัต ได้สมรสกับนางสาวระเบียบ วิชัยดิษฐ์ (คุณหญิงระเบียบ รัตนะรัต) ได้มีบุตรธิดาด้วยกัน ๔ คน ซึ่งล้วนแต่มีตำแหน่งหน้าที่การงานและประสบความสำเร็จในชีวิตกันทุกคน 

ดร.จ่าง รัตนะรัต ได้ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๖ สิริรวมอายุได้ ๘๙ ปี (วิเชียร ณ นคร)  

 

ดาวน์โหลด PDF